16.2 กระบวนการขั้นตอนพื้นฐานที่ใช้ในโลหะวิทยาที่ไม่ใช่เหล็ก
โลหะที่บริสุทธิ์จริง ๆ ในธรรมชาติที่ขุดขึ้นมา แล้วพบว่ามันมีความแข็งแกร่ง และทนทานนำมาใช้งานได้เลยนั้น หาได้น้อยมาก จะต้องนำมันมาปรับสภาพทางความร้อน เติมสารเจือปนอื่น ๆ ก่อน เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ต้องการ ให้เกิดความทนทาน และความแข็งแกร่งในโลหะ
รูปมีดกลึง
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
ตัวอย่างมีดกลึงเหล็ก ถ้ามันทำมาจากโลหะบริสุทธิ์ และถูกนำไปใช้งานกลึงเหล็ก มันจะทื่ออย่างรวดเร็ว หลังใช้งานได้ไม่นาน จำเป็นต้องนำกลับไปลับให้คมใหม่อยู่บ่อย ๆ
อาจจะต้องนำความรู้ในบทแรก ๆ นำมาพิจารณาศึกษาอีกครั้ง เพื่อที่จะนำความรู้ในตอนต้น เอามาประยุกต์ใช้ในโลหะวิทยาที่ไม่ใช่เหล็ก
เช่นกล่าวถึง การปรับสภาพทางความร้อน เพื่อการปรับปรุงในด้านความแข็ง และความแข็งแกร่งของโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก สิ่งที่จะต้องนำมาทบทวนใหม่ในบทนี้มีอยู่ 3 กระบวนการขั้นพื้นฐาน ได้แก่
-
งานขึ้นรูปเย็น และการอบอ่อน (Cold working & Annealing)
-
ทำความแข็งทันที หรือการชุบแข็ง
ในแต่ละวิธีการที่จะกล่าวในบทนี้ ที่ถูกนำไปใช้ในโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก จะมีความคล้ายคลึงกันกับ วิธีการที่ใช้ในเหล็กกล้า นอกจากนี้ยังครอบคลุมเนื้อหาไปถึงเหล็กกล้าผสม (Alloy steel) และเหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless steel) อีกด้วย
โลหะวิทยาที่ไม่ใช่เหล็ก หลังจากนำมาปรับปรุงตัววัสดุ ที่จะให้มีความสามารถด้านความแข็ง และความแข็งแกร่งแล้ว ยังมีความสามารถในการยืดหยุ่นตัว และการความสามารถด้านการคงรูปร่างได้ดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ ที่จะพบในโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก เช่น น้ำหนักที่เบากว่า, ความทนทานต่อการกัดกร่อน (Corrosion resistance) และคุณสมบัติในการนำไฟฟ้า (Electrical conductivity)
โครงสร้างอะตอมของโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก ที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทางกล ก็มีรูปแบบแตกต่างกัน สามารถดูรายละเอียดได้ในบทที่ 7 เมื่อชิ้นงานถูกปรับสภาพทางความร้อน รูปแบบโครงสร้างอะตอมก็มีการปรับเปลี่ยนทางกายภาพไปด้วย ซึ่งในโครงสร้างอะตอมของโลหะที่ไม่ใช่เหล็กจะได้กล่าวอธิบายเพิ่มเติมต่อไป
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
“เมื่อความสำเร็จ มันไม่มาหาเรา
เราก็ต้องออกไปตามหามัน”
|