5 คลื่นไหวสะเทือน
รูปโยนก้อนหินลงน้ำจะเกิดคลื่นวงกลมกระจายตัวออกรอบ ๆ หิน
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
เมื่อลองโยนก้อนหินลงในหนอง หรือแอ่งน้ำนิ่ง จะเห็นว่ามันเกิดคลื่นออกมาเป็นวง ๆ แล้วก็ขยายตัวออกไป การเกิดแผ่นดินไหวก็เป็นไปในทำนองเดียวกันที่เกิดกับพลังงาน เมื่อแผ่นเพลทหินแตก หรือเลื่อนตัว จะมีการปลดปล่อยพลังงานออกมาเป็นคลื่น ที่เรียกว่า คลื่นไหวสะเทือน หรือคลื่นแผ่นดินไหว (Seismic Waves)
รูปคลื่นแผ่นดินไหว
รูปคลื่นไหวสะเทือน
คลื่นไหวสะเทือน ทั่วไปมีอยู่ 2 ประเภทคือ คลื่นหลัก (Body waves) และ คลื่นพื้นผิว (Surface waves)
คลื่นหลัก เป็นคลื่นที่เคลื่อนที่ผ่านใต้โลก คลื่นหลัก ก็จะมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ คลื่นปฐมภูมิ (Primary waves) และ คลื่นทุติยภูมิ (Secondary waves)
รูปคลื่นพี และคลื่นเอส
คลื่นปฐมภูมิ หรือ เรียกอีกอย่างว่า คลื่นพี (P waves) เป็นคลื่นที่เคลื่อนที่ได้เร็วที่สุด การเดินทางของคลื่นอาจเคลื่อนที่ได้ไวถึง 1.6 – 8 กิโลเมตร/วินาที (1- 5 ไมล์ /วินาที) เลยทีเดียว คลื่นสามารถเคลื่อนที่ผ่านของแข็ง, ของเหลว และก๊าซไปได้อย่างง่ายดาย
รูปคลื่นปฐมภูมิ
ซึ่งมันจะเคลื่อนที่ผ่านหิน ขณะคลื่นเคลื่อนที่จะทำให้อนุภาคของหินก้อนเล็ก ๆ เคลื่อนที่สั่นไปมา ทั้งผลักดันกัน แล้วกลับมารวมกัน และผลักกันอีก การสั่นจะสอดคล้องกับทิศทางที่คลื่นเดินทาง คลื่นประเภทนี้ เมื่อเกิดบริเวณพื้นผิวจะเกิดการกระแทกอย่างทันทีจนเสียงดัง
รูปเทียบคลื่นพี และคลื่นเอส กับสปริง และเชือก ตามลำดับ
วิดีโออธิบายคลื่นพี และเอส
คลื่นทุติยภูมิ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าคลื่นเฉือน (Shear waves) หรือคลื่นเอส (S waves) เป็นคลื่นหลักอีกประเภทหนึ่ง การเคลื่อนที่ของคลื่นจะมีการเคลื่อนที่ที่ช้ากว่าคลื่นพี และมันสามารถเคลื่อนที่ผ่านได้แค่ของแข็งเท่านั้น
รูปคลื่นทุติยภูมิ
ขณะที่คลื่นเอสเคลื่อนที่ พวกมันไล่อนุภาคหินออกไปจากแนวคลื่น โดยมันจะพยายามผลักดันให้ตั้งฉากกับเส้นทางการเคลื่อนที่ของคลื่น การเกิดขึ้นนี้จะส่งผลในเกิดการม้วนงอของแผ่นดินในช่วงเวลาแรก ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการเกิดแผ่นดินไหว มันจะแตกต่างจากคลื่นพี
คลื่นเอสไม่ได้เคลื่อนที่ผ่านโดยตรงสู่พื้นผิวโลก มันเพียงเคลื่อนที่ผ่านวัสดุของแข็งใต้พื้นโลกเท่านั้น และมันจะหยุดเมื่อเจอกับชั้นของเหลวใต้แกนโลก (Earth’s core)
คลื่นพื้นผิว (Surface waves) หรือรู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า คลื่นยาว (Long waves) หรือคลื่นแอล (L waves) เป็นการเคลื่อนที่ของคลื่นตลอดแนวพื้นผิวโลก มันยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภทเช่นกัน คือ คลื่นเลิฟ (Love wave) และคลื่นเรย์ลี (Rayleigh wave) ความแตกต่างของมันอยู่ที่ทิศทางการสั่นไหว ดูตามรูป
รูปประเภทคลื่นพื้นผิว
วิดีโอคลื่นพื้นผิว
เมื่อเกิดคลื่นพื้นผิวขึ้น ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นมันจะเป็นความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน ในรูปแบบคลื่นเลิฟ มันจะแกว่งแบบซ้าย ขวาตามแนวนอน ส่วนรูปแบบคลื่นเรย์ลี มันจะมีการเคลื่อนที่ม้วนแบบขึ้น และลงบนพื้นผิวของโลก
คลื่นพื้นผิว มักจะส่งผลต่อการโยกคลอนของอาคาร และสิ่งก่อสร้างของมนุษย์ การเคลื่อนที่ของคลื่นพื้นผิวจะเคลื่อนที่ได้ช้าที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคลื่นทั้งหมด
ซึ่งหมายความว่า มันจะมาเป็นคลื่นสุดท้าย หลังจากคลื่นหลักเกิดขึ้นไปแล้ว ดังนั้น การสั่นที่รุนแรงที่สุดมักจะมาตอนท้ายของการเกิดแผ่นดินไหว
รูปเปรียบเทียบแต่ละประเภทของคลื่นไหวสะเทือน
นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการคำนวณศูนย์กลางที่กำเนิดแผ่นดินไหว โดยการตรวจสอบคลื่นที่มีความแตกต่างกันเหล่านี้ ตอนหน้าจะมาดูแนวการคิดหาตำแหน่งศูนย์กลางของแผ่นดินไหวกัน
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
“เราจะเข้าใจชีวิต เมื่อมองย้อนหลัง แต่ชีวิตเราต้องเดินไปข้างหน้า”