8. มาตราวัดริกเตอร์
เมื่อเราดูข่าวที่เกิดเกี่ยวกับแผ่นดินไหว มักจะได้ยินคำหนึ่งที่ผู้ประกาศข่าวเอ่ยขึ้นมา นั่นก็คือ “ตามมาตราริกเตอร์ (Richter scale)” มันคือ หน่วยวัดขนาดของแผ่นดินไหว จากพลังงานที่แผ่นดินไหวปล่อยออกมา เช่น แผ่นดินไหวขนาด (Magnitude) 6.1 ตามมาตราวัดริกเตอร์
หมายเหตุ: แผ่นดินไหวจะรุนแรงไม่รุนแรง ต้องดูขนาดควบคู่ไปกับความลึกของจุดศูนย์กลาง กล่าวคือ ถ้าขนาดใหญ่แต่ถ้าอยู่ลึกมากก็อาจจะไม่แรง แต่ถึงขนาดไม่ใหญ่มาก แต่จุดศูนย์กลางอยู่ตื้น ก็อาจสร้างความเสียหายได้มาก, ส่วนสิ่งที่รับรู้ได้บนดินคือ ความสั่นสะเทือน (ความรุนแรง, intensity) ซึ่งแต่ละพื้นที่บนพื้นดินจะมีความสั่นสะเทือนแตกต่างกัน แล้วแต่ว่าอยู่ใกล้ไกล จุดเหนือศูนย์แผ่นดินไหว (epicenter) แค่ไหน
รูประดับของมาตราริกเตอร์
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
รูปความรุนแรงของแผ่นดินไหวตามมาตราริกเตอร์เทียบกับภาพการ์ตูน
อาจจะได้ยินอีกคำนึงแต่ก็ไม่ค่อยคุ้นหูก็คือ มาตราเมอร์คัลลี่ (Mercalli scale) ถึงแม้ว่าจะไม่ได้กล่าวถึงบ่อย แต่สเกลทั้งสองนี้ได้อธิบายถึงระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว จากสองมุมมองที่มีความแตกต่างกัน
รูประดับของมาตราเมอร์คัลลี่
รูปความแตกต่างของสเกลทั้งสอง
การเปรียบเทียบมาตรริกเตอร์ กับมาตรเมอร์คัลลี่
|
มาตราริกเตอร์
|
มาตราเมอร์คัลลี่
|
2.5
|
โดยทั่วไปแทบไม่มีความรู้สึก แต่เครื่องวัดแผ่นดินไหวสามารถจับการไหวสะเทือนได้
|
I.
|
เกือบจะไม่มีใครรู้สึก
|
III.
|
น้อยคนที่จะรู้สึก
|
3.5
|
คนจำนวนมากอาจจะรู้สึกได้
|
III.
|
เกิดการสั่นสะเทือนที่สังเกตได้ แต่ยังไม่คิดว่าจะเป็นการเกิดแผ่นดินไหว
|
IV.
|
อยู่ในอาคารจะมีความรู้สึก เหมือนกับรถบรรทุกวิ่งผ่านจนเกิดการสั่นไหวกับอาคาร
|
V.
|
เกือบทุกคนรู้สึกได้, มีความตื่นตัว ต้นไม้ และสาอาจโยกไปมาสังเกตเห็นได้
|
4.5
|
อาจเกิดความเสียหายขึ้น
|
VI.
|
ทั้งหมดรู้สึกได้ คนจำนวนมากจะวิ่งออกจากอาคาร, เฟอร์นิเจอร์สั่นไหว, เกิดความเสียหายขึ้นเล็กน้อย
|
VII.
|
ทุกคนต้องวิ่งออกจากอาคาร, โครงสร้างอาคารจะเสียหายมาก, บริเวณอื่นอาจเกิดความเสียหายเล็กน้อย
|
6.0
|
เกิดพังทลายจากแผ่นดินไหว
|
VIII.
|
ในโครงสร้างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ จะมีความเสียหายเล็กน้อย, ส่วนอื่นพังทลาย
|
IX.
|
ทุกโครงสร้างอาคารเกิดความเสียหายอย่างมาก, ฐานรากอาคารเกิดการเลื่อนตัว, เกิดรอยแตกของพื้นดินอย่างเห็นได้ชัด
|
7.0
|
เกิดแผ่นดินไหวใหญ่
|
X.
|
โครงสร้างอาคารต่าง ๆ ถูกทำลาย, พื้นดินเกิดรอยแยกอย่างมาก
|
8.0
หรือมากกว่า
|
เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่สุด
|
XI.
|
โครงสร้างอาคารส่วนใหญ่เสียหาย, รอยแยกบนพื้นดินมีขนาดใหญ่มาก
|
XII.
|
ทุกสิ่งทุกอย่างเสียหายหมด, เกิดคลื่นบนพื้นผิวดิน, วัตถุโยนตัว และร่วงหล่นได้
|
ตารางเปรียบเทียบสเกลวัดแผ่นดินไหว ริกเตอร์ กับเมอร์คัลลี่
การจัดอันดับริกเตอร์เป็นเพียงความคิดคร่าว ๆ เท่านั้นของการเกิดแผ่นดินไหว ถึงแม้ว่า ที่เราได้เห็นพลังการทำลายล้างของแผ่นดินไหว ความรุนแรงจะมีความแตกต่างกันไป สิ่งเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบในแต่ละพื้นที่นั้น ได้แก่ ลักษณะพื้นดิน, ความลึกของจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว และการออกแบบสร้างอาคาร สิ่งปลูกสร้างตรงบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหว
ส่วนขอบเขตของความเสียหายจะมีการจัดลำดับในมาตราเมอร์คัลลี่ ซึ่งจะกำหนดไว้เป็นตัวเลขโรมัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการแปลความหมายไปตามวิสัยทัศน์ส่วนใหญ่ แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงต่ำอาจซึ่งมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนนั้นได้ และที่สำคัญมันไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สิน
การจัดเรียงลำดับความรุนแรงของเมอร์คัลลี่ ที่พอรู้สึกได้ มักจะถูกจัดไว้เริ่มต้นอยู่ในอันดับที่ II เรียงลำดับเรื่อยไป จนถึงสูงสุดคือ XII ถ้าถึงระดับนี้แล้ว ผลของการเกิดแผ่นดินไหวจะทำให้โครงสร้างต่าง ๆ พังทลายลงมา แผ่นดินแยก และภัยธรรมชาติอื่น ๆ เช่น ดินถล่ม หรือสึนามิ จะเริ่มต้นเกิดขึ้น
วิดีโออธิบายขนาดของแผ่นดินไหวในมาตราริกเตอร์
มาตรฐานที่พบมากที่สุดของการวัดแผ่นดินไหว ก็คือ การวัดด้วยมาตราริกเตอร์ ถูกคิดค้นในปี พ.ศ. 2478 โดย ชาร์ล เอฟ. ริกเตอร์ (Charles F. Richter) ของสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย
รูปชาร์ล เอฟ. ริกเตอร์
มาตราริกเตอร์ ใช้ในการคาดคะเนขนาดของการเกิดแผ่นดินไหว และปริมาณของพลังงานที่ปล่อยออกมาของมัน ซึ่งคำนวณได้จากการรวบรวมข้อมูลจากเครื่องวัดแผ่นดินไหวไซสโมกราฟที่อยู่ในบริเวณต่าง ๆ
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
“ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจก
รับรองว่าเขาต้องยิ้มกลับมาทุกครั้งแน่”