1.2 อะตอม
ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ อะตอมเป็นส่วนที่เล็กที่สุดของธาตุ อะตอมของธาตุที่แตกต่างมีมากกว่า 100 ธาตุ แล้วมีเกินกว่า 100 อะตอม
ทุก ๆ อะตอมมี นิวเคลียส (Nucleus) (อยู่ตรงกลางของอะตอม) ภายในมันมีอนุภาคประจุบวกที่เรียกว่า โปรตอน (Protons) กับอนุภาคที่ไม่มีประจุ คือ นิวตรอน (Neutrons) แล้วมีอนุภาคประจุลบที่เรียกว่า อิเล็กตรอน (Electrons) ซึ่งมันจะโคจรรอบ ๆ นิวเคลียส ดูที่รูปด้านล่าง
รูปส่วนประกอบของอะตอม
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
รูปการจำลองอะตอม
จำนวนของโปรตอนในอะตอมนิวเคลียส เรียกว่า เลขอะตอม (Atomic number) ของธาตุ เลขอะตอมจะแยกประเภทธาตุออกจากกัน แตกต่างกันไป
รูปสัญลักษณ์อะตอม
ในธาตุแต่ละตัวก็จะมี น้ำหนักอะตอม (Atomic weight) หรือมวลอะตอม (Atomic mass) ด้วย น้ำหนักของอะตอมก็คือมวลของอะตอม ซึ่งมันมาจากการบวกกันของโปรตอน และนิวตรอนในโมเลกุล อิเล็กตรอนไม่ได้มีส่วนร่วมในมวลของอะตอม มวลของอิเล็กตรอนมีเพียง 1/1845 เท่าของโปรตอนเท่านั้น จึงไม่สำคัญพอที่จะนำมาพิจารณา
รูปตัวอย่างธาตุที่มีเลขอะตอม กับน้ำหนักอะตอม
วงโคจรอิเล็กตรอน ที่วนรอบนิวเคลียส จะมีหนึ่ง หรือมากกว่าหนึ่งวงรอบ แต่ละวงรอบเรียกว่า เปลือก หรือเชลล์ (Shell) เชลล์เหล่านี้มีการเรียงลำดับกันไป กำหนดให้ K คือ วงแรก วงต่อมาก็คือ L, M, N และอื่น ๆ ดูที่รูปด้านล่าง
รูปอิเล็กตรอนจะมีขึ้นตามวงรอบเชลล์รอบนิวเคลียส
จำนวนสูงสุดของอิเล็กตรอนนั่นแต่ละเชลล์สามารถรองรับได้ ดูได้ที่ด้านล่าง
รูปจำนวนของอิเล็กตรอนแต่ละเชลล์ที่สามารถรองรับได้
รูปจำนวนของอิเล็กตรอนในแต่ละเชลล์ที่สามารถรับได้
เชลล์นอกสุด ถูกเรียกว่า เวเลนซ์เชลล์ (Valence shell) และจำนวนของอิเล็กตรอน มันจะถูกเหนี่ยวนำดึงดูดให้วนรอบ เวเลนซ์ (Valence) เวเลนซ์เชลล์จากนิวเคลียส จะเกิดการดึงดูดนิวเคลียสน้อยกว่า เวเลนซ์ที่อิเล็กตรอน ดังนั้น ศักยภาพของอะตอมอาจจะสามารถที่จะรับ หรือสูญเสียอิเล็กตรอนขึ้นได้
ถ้าหากเวเลนซ์เชลล์ไม่เต็ม และระยะอยู่ไกลจากนิวเคลียส การเหนี่ยวนำของอะตอม ก็จะขึ้นอยู่กับพันธะเวเลนซ์ โดยจำนวนอิเล็กตรอนที่มีมากในเวเลนซ์เชลล์ จะมีความเหนี่ยวนำน้อยกว่าในจำนวนอิเล็กตรอนที่มีน้อย
ตัวอย่างเช่น อะตอมมีอิเล็กตรอน 7 ตัว ในเวเลนซ์เชลล์ จะมีความเหนี่ยวนำน้อยกว่าอะตอมที่มีอิเล็กตรอน 3 ตัว ในเวเลนซ์เชลล์
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
“ประสบความสำเร็จ
ถ้าหมดกำลังใจเมื่อใด
ก็เท่ากับว่า หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง”
<หน้าที่แล้ว สารบัญ หน้าต่อไป>
|