2.4.5 ระบบอัจฉริยะ (งานแมคาทรอนิกส์ขั้นพื้นฐาน)
การประมวลผลข้อมูลในระบบแมคาทรอนิกส์ อาจอยู่ตรงกลางระหว่างฟังชันก์ควบคุมการทำงานที่ง่าย กับการควบคุมด้วยความฉลาด
คำนิยามต่าง ๆ ของระบบควบคุมอัจฉริยะที่ทำอยู่ ระบบควบคุมอัจฉริยะอาจได้รับการจัดการระบบด้วยความเชี่ยวชาญแบบออนไลน์ ประกอบไปด้วย
-
ฟังชันก์หลายการควบคุม (ฟังชันก์การบริหาร)
-
กลไกอนุมาน (inference mechanisms)
ฟังชันก์การควบคุมออนไลน์ มักจะจัดระเบียบในหลายระดับ ตามที่อธิบายไว้แล้ว ฐานความรู้ในเชิงปริมาณ และคุณภาพ ส่วนทำงานเชิงปริมาณทำด้วยการวิเคราะห์ (ทางคณิตศาสตร์) แบบจำลองกระบวนการ, พารามิเตอร์ และวิธีการประมาณสถานะ, วิธีการออกแบบวิเคราะห์ เช่น การควบคุม และการตรวจสอบความผิดพลาด และวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงปริมาณ
ยึดถือโมดูลที่คล้ายกัน สำหรับความรู้ในเชิงคุณภาพ เช่น ในรูปแบบของกฎสำหรับ การคุมเคลือ หรือฟัซซี่ (Fuzzy) และการคำนวณอ่อน (Soft computing=คำนวณเบื้องต้นที่ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายทีเดียว)
ความรู้ต่อไปคือ หน่วยความจำที่ผ่านมา และความเป็นไปได้ที่จะทำนายพฤติกรรม ในที่สุดอาจจะรวมกันเป็นผลของงาน หรือเป็นตาราง
กลไกอนุมาน นำข้อสรุปอย่างใดอย่างหนึ่งโดยใช้เหตุผลเชิงปริมาณ (Quantitative reasoning) เช่น วิธีการบูลีน (Boolean methods) หรือโดยเหตุผลเชิงคุณภาพ (Qualitative reasoning) เช่น วิธีการเป็นไปได้ (Possibilistic methods) และใช้เวลาในการตัดสินใจสำหรับงานการบริหาร
การสื่อสารระหว่างโมดูลที่แตกต่างกัน, ฐานข้อมูลการจัดการข้อมูล และปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ กับเครื่องจักร ต้องมีการจัดระเบียบ
ระบบเชี่ยวชาญออนไลน์ จะขึ้นอยู่กับฟังชันก์ที่กล่าวมาเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นระบบอัจฉริยะที่สามารถสร้างขึ้นมา มันมีความสามารถในการจำลอง, ให้เหตุผล และเรียนรู้กระบวนการ แล้วหน้าที่อัตโนมัติของมันทำงานภายในกรอบที่กำหนด และเพื่อควบคุมให้ไปสู่เป้าหมายบางอย่าง
ดังนั้น ระบบแมคาทรอนิกส์อัจฉริยะ (Intelligent mechatronic system) สามารถทำการพัฒนาได้ ตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับที่เป็นอัจฉริยะ เช่น อุปกรณ์ทำงานระบบที่ค่อนข้างจะอัจฉริยะ ไปจนถึงเครื่องกลที่มีความอัจฉริยะ เช่น ระบบนำทางยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Self-navigating automatic guided vehicles)
รูปยานยนต์ขนของขับเคลื่อนอัตโนมัติ
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
ระบบแมคาทรอนิกส์อัจฉริยะ จะปรับเปลี่ยนตัวควบคุมเพื่อสามารถใช้ในพฤติกรรมไม่เชิงเส้นได้ (Adaptation: การปรับตัว) ซึ่งมีการใช้งานเป็นส่วนใหญ่ และสามารถเก็บพารามิเตอร์ที่ใช้ควบคุมตัวมัน โดยขึ้นอยู่กับ ตำแหน่ง และโหลดภาระ โดยได้จากการเรียนรู้
กำกับดูแลองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และทำการวินิจฉัยความผิดปกติ ได้จากการกำกับดูแล เพื่อร้องขอการซ่อมบำรุง หรือถ้าเกิดความล้มเหลว ก็ทำการร้องขอเพื่อการดำเนินการให้เกิดความปลอดภัยที่สาเหตุมาจากการล้มเหลว โดยมีการตัดสินใจจากการกระทำ
ในกรณีที่มีส่วนประกอบหลากหลายส่วน การกำกับดูแลอาจช่วย ปิดส่วนที่มีความผิดปกติ และเริ่มดำเนินการปรับโครงสร้างของกระบวนการควบคุม
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
“ปิดให้ดี คือ ปาก
ใช้ให้มาก คือ สมอง
กรองให้ดี คือ หู
ยกให้สูง คือ ใจ”