ปัญหาที่ ๔ บาป บุญที่เกิดในขณะนี้มีหรือไม่ (สังขารชานนปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน บุญบาปอันเป็นต้นเหตุให้นามรูปเกิดซึ่งกำลังเกิดอยู่ในบัดนี้ มีหรือไม่”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร มี”
ม: “เธอจงว่ามาให้เห็น”
น: “เมื่อตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้ดมกลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส กายได้แตะต้อง ใจได้รับอารมณ์ ขอถวายพระพร ก็ใน ๖ อย่างนี้ ขณะเมื่ออย่างใดอย่างหนึ่งกระทำกิจของตนอยู่ ย่อมเกิดความรู้แจ้งขึ้น
ถ้าเป็นอารมณ์ที่ดี ก็รู้สึกชอบ รู้สึกพอใจ พยายามดิ้นรนหาต่อไปถ้าเป็นอารมณ์ที่ไม่ถูกใจ ก็ไม่พอใจ พยายามดิ้นรนหนี เมื่อขณะดิ้นรนอยู่ก็จำต้องยึดถือวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคนเห็นว่าจะกระทำให้การดิ้นหาหรือดิ้นหนีนั้นได้สมประสงค์
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เป็นเหตุให้ทำพูดและคิดดีบ้างชั่วบ้าง เกิดเป็นบุญเป็นบาปขึ้นในทันทีเช่นนี้แล ขอถวายพระพร จึงว่าบุญบาปซึ่งเกิดอยู่ในบัดนี้มี”
ม: “เธอว่านี้ชอบแล้ว”
จบสังขารชานนปัญหา
ปัญหาที่ ๕ มีขึ้นจากสังขารที่ไม่มี (อภวันตสังขารปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ก็สิ่งที่ไม่เคยเกิดมาเป็นนามรูปเลย แล้วมาเริ่มผุดเกิดเป็นนามรูปขึ้น มีบ้างหรือไม่”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร ไม่มี”
ม: “เธอจงเปรียบให้ฟัง”
น: “ขอถวายพระพร ของภายในพระที่นั่งนี้ เป็นสิ่งซึ่งแต่ก่อนไม่เคยมีมาเลย มาเริ่มมีขึ้นในบัดนี้ มีบ้างหรือไม่”
ม: “ไม่มี”
น: “หรือต้นไม้พรรณต่างๆ ซึ่งเกลื่อนกลาดอยู่ที่พื้นดิน ขอถวายพระพรมีบ้างหรือไม่ซึ่งไม่เคยมีมาแต่ก่อนเลย”
ม: “ไม่มีเลยเธอ เพราะต้นไม้เหล่านั้น ล้วนเดิมมีพืชพันธุ์เช่นเดียวกันให้กำเนิดต่อเนื่องมาแล้วทั้งนั้น”
น: “นั่นแหละฉันใด นี่ก็ฉันนั้น อันสิ่งซึ่งได้มาเกิดเป็นนามรูปก็เกิดมาแต่พืชพันธุ์เป็นนามรูป เช่นเดียวกันเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นสิ่งซึ่งไม่เคยมีพันธุ์เป็นรูปนามแต่เดิม จะเริ่มมาผุดเกิดเป็นนามรูปขึ้นในบัดนี้จึงมีไม่ได้
เหตุมาจากที่ว่าสิ่งนั้น ๆ ไม่มีโอกาสได้ก่อเหตุ ก็คือบุญบาป ซึ่งจะเป็นสิ่งตกแต่งให้เกิดกลายมาเป็นนามรูปขึ้น”
ม: “เธอช่างฉลาดจริง ๆ”
จบอภวันตสังขารปัญหา
|