ปัญหาที่ ๖ ฝน
	 
	      พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๕ แห่งฝนนั้นเป็นไฉน”
	 
	 
	รูปฝนตก
	 
	 
	      พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร ธรรมดาฝน
	 
	      ๑. ย่อมชำระธุลีเหงื่อไคลได้
	      ๒. ย่อมดับความร้อนที่แผ่นดินเสียได้
	      ๓. ย่อมทำพืชพันธุ์ให้งอกงาม
	      ๔. ย่อมรักษาหญ้าและต้นไม้เครือเขา พุ่มไม้ ผักที่งอกแล้วให้เจริญงามขึ้นได้
	      ๕. ย่อมยัง แม่น้ำ หนอง สระบัวห้วยธารบ่อบึงให้เต็มด้วยธารน้ำ
	 
	      ขอถวายพระพร ผู้ปฏิบัติต้องกอปรด้วยองค์ ๕ เช่นเดียวกับฝนนี้ คือ
	 
	      ๑. ต้องชำระล้างธุลีคือกิเลสให้หมดสิ้นไป
	      ๒. ต้องดังความร้อนของโลกด้วยเมตตาภาวนา
	      ๓. ต้องเพาะศรัทธาแก่หมู่ชนให้งอกงามขึ้น
	      ๔. รักษาสมณธรรมที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญยิ่งๆ ขึ้น
	      ๕. ยังฝนคือปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธให้ตก ยังใจของผู้ใคร่ต่อปฏิเวธให้เต็มเปี่ยม
	 
	ดังคำที่พระธรรมเสนาบดีสารีบุตรกล่าวว่า สมเด็จพระมหามุนีเจ้าทรงเห็นชนผู้ควรตรัสรู้ถึงทางจะใกล้ตั้งแสนโยชน์ ก็เสด็จไปถึงโดยครู่เดียวแล้วตรัสสอนให้รู้ตาม”
	 
	      พระเจ้ามิลินท์ตรัสตอบว่า “ชอบแล้ว”
	 
	 
	 
	ปัญหาที่ ๗ แก้วมณี
	 
	      พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๓ แห่งแก้วมณีนั้น เป็นไฉน”
	 
	      พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร ธรรมดาแก้วมณี
	 
	      ๑. เป็นของเกลี้ยงเกลา
	      ๒. ไม่มีอะไรเข้าไปเจือปน
	      ๓. ชนิดแก้วมณีก็อยู่ส่วนแก้วมณี
	 
	      ขอถวายพระพร ผู้ปฏิบัติพึงทรงคุณสมบัติเช่นแก้วมณีนี้แล คือ
	 
	      ๑. ต้องเป็นผู้มีอาชีพหมดจดส่วนเดียว
	      ๒. ต้องไม่ปะปนด้วยคนชั่ว
	      ๓. ต้องอยู่ร่วมด้วยผู้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน 
	 
	ดังวจนะประพันธ์พุทธภาษิตว่า ท่านผู้มีสติตั้งมั่นพึงอยู่ร่วมด้วยผู้บริสุทธิ์แต่ผู้นั้นมีปัญญารักษาตัวได้จักทำที่สุดแห่งกองทุกข์”
	 
	      พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “ควรแล้ว”
	 
	 
	<หน้าที่แล้ว                                 สารบัญ                    หน้าต่อไป>